Latest News

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2563

มหาตมะ คานธี : พลังใจแห่งการต่อสู้ของชาวอินเดีย

 มหาตมะ คานธี ชายผู้กอบกู้เอกราชอินเดีย

โมฮันดาส การัมจันท์ คานธี Mahatma Gandhi (ปี 1869-1948) เป็นทั้งครูและนักปฏิรูป ซึ่งเรารู้จักกันในนามว่า ‘มหาตมะ’ หรือจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ คานธีเกิดในโปรพันทาระทางตะวันตกของอินเดีย ปี 1888 เขาไปศึกษาวิชากฎหมายที่ลอนดอนและเริ่มศึกษาเกี่ยวกับศาสนา เขาสนใจคัมภีร์ภควัตคีตาของศาสนาฮินดูซึ่งเป็นแรงใจสำหรับตัวเขาตลอดชีวิต

มหาตมะ คานธี

เป็นศูนย์รวมพลังใจแห่งอินเดีย เป็นบุคคลสำคัญในการต่อสู้ของอินเดีย เพื่อเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ เขาอุทิศชีวิตต่อสู้เพื่อให้เกิดสันติภาพ การปฏิรูปและการปกครองตนเองในบ้านเมือง

ต่อมาคานธีย้ายไปตั้งหลักแหล่งอยู่ในแอฟริกาใต้ โดยประกอบอาชีพทนายความ เขาเรียกร้องให้มหาชนต่อสู้กับกฏหมายที่แบ่งแยกกีดกันชุมชนชาวเอเชีย จนรัฐบาลต้องยอมโอนอ่อนให้สิทธิบางประการมาบ้าง

โมฮันดาส การัมจันท์ คานธี Mahatma Gandhi
มหาตมะ คานธี สมัยเป็นนักเรียนกฏหมายอยู่ที่ลอนดอน
(ภาพจาก : wikipedia)

คานธีกลับอินเดียในปี 1915 หลังจากเขียนหนังสือเล่มเล็กๆ เรียกร้องให้อินเดียปกครองตนเอง เขาดำเนินชีวิตอย่างสมถะและแต่งกายง่ายๆ คานธีเห็นว่าการประพฤติและปฏิรูปสังคมนั้นสำคัญพอๆกับเรื่องการเมือง เขาต่อสู้เพื่อล้มล้างระบบจัณฑาล ซึ่งเป็นวรรณะต่ำสุดที่ถูกรังเกียจเดียดฉันท์ในอินเดีย เขาต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี และเชื่อว่าชาวฮินดูและชาวมุสลิมจะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

เริ่มต้นขบวนการดื้อแพ่ง

ในปี 1920 คานธีโน้มน้าวพรรคคองเกรสแห่งอินเดียซึ่งเป็นกลุ่มที่เรียกร้องอิสรภาพ ให้เคลื่อนไหวต่อต้านอังกฤษ ขบวนการนี้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบรับอย่างใหญ่หลวง คานธีชักชวนให้รวมหัวกันต่อต้านผ้าอังกฤษที่ทำจากฝ้ายราคาถูกของอินเดียและใช้วงล้อปั่นด้ายเป็นสัญลักษณ์แทนการพึ่งพาตนเอง จากเหตุการณ์นี้ทำให้เขาถูกจับและจำคุก 6 ปี

คานธีกับดร.แอนนี่เบซานต์ ระหว่างทางไปประชุมที่เมืองมัทราสในเดือนกันยายน พ.ศ. 2464
คานธีได้นำผ้าเตี่ยวมาใช้เป็นครั้งแรกเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการแสดงตัวตนกับคนยากจนของอินเดีย
(ภาพจาก : Wikipedia)

ในปี 1930 คานธีเริ่มขบวนการดื้อแพ่งครั้งที่ 2 เขานำการเดินขบวนผ่านอินเดียตะวันตกไปที่ชายฝั่งเพื่อผลิตเกลือด้วยมือตนเองเป็นการประท้วงที่รัฐผูกขาดการผลิตเกลือ จึงทำให้เขาถูกจับกุมอีกครั้ง ปี 1931 เขาเข้าร่วมประชุมโต๊ะกลมที่กรุงลอนดอน เรื่อง อนาคตของอินเดีย แต่การเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จ

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 คานธีจัดตั้งขบวนการเคลื่อนไหว ‘จงไปจากอินเดีย’ (Quit India) อังกฤษโต้ตอบด้วยการจับตัวผู้นำของพรรคคองเกรสไป แต่กลับกลายเป็นการยั่วยุให้เกิดการต่อสู้ที่รุนแรงยิ่งขึ้น ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียอำนาจในดินแดนส่วนใหญ่ของประเทศไป

โมฮันดาส การัมจันท์ คานธี Mahatma Gandhi
โมฮันดาส การัมจันท์ คานธี Mahatma Gandhi

หลังปี 1944 คานธีปล่อยให้คองเกรสเป็นผู้เจรจาต่อรองกับอังกฤษ ส่วนเขาหันมาทุ่มเทให้กับการสร้างความสงบสุขให้กับดินแดนต่างๆที่มีการจลาจลต่อสู้ระหว่างพวกฮินดูกับมุสลิม เขาต่อต้านการแบ่งแยกทางการเมือง ระหว่างชาวฮินดูกับชาวมุสลิม ซึ่งการแบ่งแยกนี้นำไปสู่การก่อตั้งประเทศปากีสถาน ในวันประกาศเอกราช วันที่ 15 สิงหาคม 1947 คานธีอดอาหารและสวดอธิษฐานขอสันติภาพ ผลจากการแบ่งแยกชาวฮินดูและชาวมุสลิมนี้ทำให้ต้องอพยพคนจำนวนมาก มีคนล้มตายถึงหลายแสนคนในปีนี้

อนุสรณ์สถานที่คานธีถูกลอบสังหารในปี 2491
อนุสรณ์สถานที่คานธีถูกลอบสังหารในปี 2491
(ภาพจาก : wikipedia)

ในวันที่ 30 มกราคม 1948 คานธีถูกชาวฮินดูหัวรุนแรงยิงเสียชีวิตในเมืองเดลี ขณะชุมนุมสวดมนต์ยามเย็นที่ปฏิบัติเป็นกิจวัตร ชาวฮินดูคนนั้นไม่ต้องการให้ชาวมุสลิมและฮินดูสมานฉันท์กัน เขาจึงยิงปืนใส่คานธีถึง 3 นัด จนคานธีล้มลง ไม่ทันได้ถึงมือแพทย์ คานธีได้เสียชีวิตลงไปก่อน ซึ่งในขณะนั้นเขามีอายุ 78 ปี.

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2563

อาณาจักรลังกาสุกะ การสถาปนาอาณาจักรต่าง ๆ ในดินแดนประเทศไทยโบราณ ตอนที่ 12

ประวัติศาสตร์ อาณาจักรปัตตานี

อาณาจักรปัตตานี  ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลาบางส่วนในปัจจุบัน

อาณาจักรปัตตานี (มลายู: كراجأن ڤتاني; Kerajaan Patani) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลาบางส่วนในปัจจุบัน อาณาจักรปัตตานีถือกำเนิดขึ้นก่อนอาณาจักรสยาม 500 ปี เริ่มจากเป็นเผ่าเล็ก ๆ รวมตัวกัน มีประชากรอาศัย 200-250 คน มีชื่อว่า ปีสัง โดยแต่ละปีจะมีตูวอลา (หัวหน้าเผ่าในสมัยนั้น) มาปกครอง และจะสลับทุก ๆ 1 ปี ต่อมามีชนกลุ่มใหญ่เข้ามามีบทบาทในแถบนี้มากขึ้น จนในที่สุด ก็ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรลังกาสุกะ และเปลี่ยนจากชื่อ ปีสัง มาเป็น บาลูกา ซึ่งมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 9 หลังจากนั้นราว 100 ปี ลูกชายกษัตย์ลังกาสุกะได้เดินทางมาถึงที่นี้และรู้สึกประทับใจ เลยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ปาตาอีนิง แล้วก่อตั้งเป็นรัฐใหม่ ชื่อ รัฐปาตาอีนิง จนมีพ่อค้ามากมายเข้ามาติดต่อค้าขายทั้งจีน อาหรับ แต่ชาวอาหรับเรียกที่นี้ว่า ฟาตอนี เลยมีคนเรียกดินแดนแห่งนี้แตกต่างกันออกไป เดิมอาณาจักรปัตตานีนับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน แต่ในราวพุทธศตวรรษที่ 21 ได้เริ่มเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม โดยบางช่วงอาณาจักรแผ่ขยายครอบคลุมถึงรัฐกลันตันและรัฐตรังกานู ตอนกลางของประเทศมาเลเซีย แต่หลังการสิ้นสุดราชวงศ์ศรีวังสา อาณาจักรปัตตานีก็เริ่มเสื่อมลง จนตกอยู่ในอำนาจของสยามในปี พ.ศ. 2329 และกลายเป็นเมืองขึ้นเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2445 ก็ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสยาม

      ทางช่องนำเรื่องประวัติศาสตร์มาเล่าให้ฟัง เพื่อเป็นความรู้ ความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟัง 

ที่มา :

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%...

Recent Post