โมฮันดาส การัมจันท์ คานธี Mahatma Gandhi
(ปี 1869-1948) เป็นทั้งครูและนักปฏิรูป ซึ่งเรารู้จักกันในนามว่า
‘มหาตมะ’ หรือจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่
คานธีเกิดในโปรพันทาระทางตะวันตกของอินเดีย ปี 1888
เขาไปศึกษาวิชากฎหมายที่ลอนดอนและเริ่มศึกษาเกี่ยวกับศาสนา
เขาสนใจคัมภีร์ภควัตคีตาของศาสนาฮินดูซึ่งเป็นแรงใจสำหรับตัวเขาตลอดชีวิต
มหาตมะ คานธี
เป็นศูนย์รวมพลังใจแห่งอินเดีย
เป็นบุคคลสำคัญในการต่อสู้ของอินเดีย เพื่อเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ
เขาอุทิศชีวิตต่อสู้เพื่อให้เกิดสันติภาพ
การปฏิรูปและการปกครองตนเองในบ้านเมือง
ต่อมาคานธีย้ายไปตั้งหลักแหล่งอยู่ในแอฟริกาใต้
โดยประกอบอาชีพทนายความ
เขาเรียกร้องให้มหาชนต่อสู้กับกฏหมายที่แบ่งแยกกีดกันชุมชนชาวเอเชีย
จนรัฐบาลต้องยอมโอนอ่อนให้สิทธิบางประการมาบ้าง
มหาตมะ คานธี สมัยเป็นนักเรียนกฏหมายอยู่ที่ลอนดอน (ภาพจาก : wikipedia )
คานธีกลับอินเดียในปี
1915 หลังจากเขียนหนังสือเล่มเล็กๆ เรียกร้องให้อินเดียปกครองตนเอง
เขาดำเนินชีวิตอย่างสมถะและแต่งกายง่ายๆ
คานธีเห็นว่าการประพฤติและปฏิรูปสังคมนั้นสำคัญพอๆกับเรื่องการเมือง
เขาต่อสู้เพื่อล้มล้างระบบจัณฑาล
ซึ่งเป็นวรรณะต่ำสุดที่ถูกรังเกียจเดียดฉันท์ในอินเดีย
เขาต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี
และเชื่อว่าชาวฮินดูและชาวมุสลิมจะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
เริ่มต้นขบวนการดื้อแพ่ง
ในปี
1920
คานธีโน้มน้าวพรรคคองเกรสแห่งอินเดียซึ่งเป็นกลุ่มที่เรียกร้องอิสรภาพ
ให้เคลื่อนไหวต่อต้านอังกฤษ
ขบวนการนี้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบรับอย่างใหญ่หลวง
คานธีชักชวนให้รวมหัวกันต่อต้านผ้าอังกฤษที่ทำจากฝ้ายราคาถูกของอินเดียและใช้วงล้อปั่นด้ายเป็นสัญลักษณ์แทนการพึ่งพาตนเอง
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เขาถูกจับและจำคุก 6 ปี
คานธีกับดร.แอนนี่เบซานต์ ระหว่างทางไปประชุมที่เมืองมัทราสในเดือนกันยายน พ.ศ. 2464 คานธีได้นำผ้าเตี่ยวมาใช้เป็นครั้งแรกเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการแสดงตัวตนกับคนยากจนของอินเดีย (ภาพจาก : Wikipedia )
ในปี
1930 คานธีเริ่มขบวนการดื้อแพ่งครั้งที่ 2
เขานำการเดินขบวนผ่านอินเดียตะวันตกไปที่ชายฝั่งเพื่อผลิตเกลือด้วยมือตนเองเป็นการประท้วงที่รัฐผูกขาดการผลิตเกลือ
จึงทำให้เขาถูกจับกุมอีกครั้ง ปี 1931
เขาเข้าร่วมประชุมโต๊ะกลมที่กรุงลอนดอน เรื่อง อนาคตของอินเดีย แต่การเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จ
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 คานธีจัดตั้งขบวนการเคลื่อนไหว ‘จงไปจากอินเดีย’
(Quit India) อังกฤษโต้ตอบด้วยการจับตัวผู้นำของพรรคคองเกรสไป
แต่กลับกลายเป็นการยั่วยุให้เกิดการต่อสู้ที่รุนแรงยิ่งขึ้น
ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียอำนาจในดินแดนส่วนใหญ่ของประเทศไป
โมฮันดาส การัมจันท์ คานธี Mahatma Gandhi
หลังปี
1944 คานธีปล่อยให้คองเกรสเป็นผู้เจรจาต่อรองกับอังกฤษ
ส่วนเขาหันมาทุ่มเทให้กับการสร้างความสงบสุขให้กับดินแดนต่างๆที่มีการจลาจลต่อสู้ระหว่างพวกฮินดูกับมุสลิม
เขาต่อต้านการแบ่งแยกทางการเมือง ระหว่างชาวฮินดูกับชาวมุสลิม
ซึ่งการแบ่งแยกนี้นำไปสู่การก่อตั้งประเทศปากีสถาน ในวันประกาศเอกราช
วันที่ 15 สิงหาคม 1947 คานธีอดอาหารและสวดอธิษฐานขอสันติภาพ
ผลจากการแบ่งแยกชาวฮินดูและชาวมุสลิมนี้ทำให้ต้องอพยพคนจำนวนมาก
มีคนล้มตายถึงหลายแสนคนในปีนี้
อนุสรณ์สถานที่คานธีถูกลอบสังหารในปี 2491 (ภาพจาก : wikipedia )
ในวันที่
30 มกราคม 1948 คานธีถูกชาวฮินดูหัวรุนแรงยิงเสียชีวิตในเมืองเดลี
ขณะชุมนุมสวดมนต์ยามเย็นที่ปฏิบัติเป็นกิจวัตร
ชาวฮินดูคนนั้นไม่ต้องการให้ชาวมุสลิมและฮินดูสมานฉันท์กัน
เขาจึงยิงปืนใส่คานธีถึง 3 นัด จนคานธีล้มลง ไม่ทันได้ถึงมือแพทย์
คานธีได้เสียชีวิตลงไปก่อน ซึ่งในขณะนั้นเขามีอายุ 78 ปี.